น้ำตาลเทียม ดีต่อสุขภาพชัวร์

น้ำตาลเทียม ดีต่อสุขภาพชัวร์

หลายคนที่รักสุขภาพ จะรู้ดีว่าน้ำตาลหากทานมากเกินไปไม่ดีต่อร่างกาย จึงเลี่ยงไปทานน้ำตาลเทียม หรือสารให้ความหวานแทนน้ำตาลกัน เพื่อให้ได้รสชาติความหวาน แต่ไม่รู้สึกผิดต่อร่างกาย ซึ่งความจริงแล้ว น้ำตาลเทียมได้แฝงอันตรายเอาไว้มากมาย แต่ก่อนทราบมาดูข้อมูลก่อนว่าน้ำตาลเทียมคืออะไร

น้ำตาลเทียมคืออะไร ?
น้ำตาลเทียมที่จำหน่ายกันอยู่ในท้องตลาด จะมีส่วนประกอบเป็นสารที่ให้ความหวานเรียกว่าแอสปาร์เทม (Aspartame) มาผสมกับน้ำตาลแล็กโทส และสารซิลิคอนไดออกไซด์ ซึ่งสาร 2 ตัวหลังจะทำหน้าที่ช่วยในการทำให้ผลิตภัณฑ์อยู่ในลักษณะเป็นผงดีเท่านั้น

อันตรายจากน้ำตาลเทียม
1. สารเคมีตกค้างทำให้ ก่อมะเร็ง

แอสปาแทมจะประกอบไปด้วยสารเคมีจำนวน 3 ชนิด คือ กรดแอสปาร์ติก ฟีนิลอะลานีน และเมธานอล ซึ่งหากร่างกายได้รับสารเคมีเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ก็จะไม่สามารถกำจัดออกไปจากร่างกายได้หมด สุดท้ายอาจเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อ และจะทำให้ DNA ภายในร่างกายเกิดความเสียหาย และอาจพัฒนาจนกลายเป็นความผิดปกติในเซลล์ และเป็นมะเร็งได้ในที่สุด

2. เป็นสาเหตุโรคอ้วน และเบาหวานทางอ้อม

จุดหมายของน้ำตาลเทียม คือการแทนที่การทานน้ำตาล เพื่อจะเลี่ยงโรคอ้วน และเบาหวานได้ แต่กลับกลายเป็นว่าแอสปาแทมเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็น 2 โรคนี้เสียเอง เพราะแอสปาร์แทมจะทำให้ร่างกายมีปริมาณการผลิตฮอร์โมนที่ผิดปกติ และส่งผลให้ร่างกายยิ่งโหยหาความหวานจากน้ำตาลมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังวนเวียนกลับไปหาน้ำตาลแท้เหมือนเดิม อีกทั้งยังต้องการอาหารมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

3. เป็นสารที่อันตราย

ถึงแม้ว่าจะมีการอนุญาตให้ใช้น้ำตาลเทียมบริโภคอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนแล้ว แต่จากการทดลองกับสัตว์บางชนิด ก็ยังพบอาการข้างเคียงได้เช่น ชักอย่างรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

4. ท้องอืด ท้องเฟ้อ

แอสปาแทมเป็นน้ำตาลเทียม ที่ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย จึงทำให้มันไปกองรวมกันอยู่ในลำไส้ใหญ่ และจะมีแบคทีเรียที่สามารถย่อยแอสปาแตมได้ แต่จะผลิตก๊าซออกมาด้วย จึงทำให้มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อและถ่ายได้มากกว่าปกติ

5. มีอันตรายต่อสมอง

กรดแอสปาร์ติก ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งในน้ำตาลเทียม ก็สามารถผ่านเข้าสู่เซลล์สมองได้ และเมื่อมีปริมาณแคลเซียมในสมองมากๆ ก็ทำให้สมองได้รับอันตรายได้ อีกทั้งเซลล์สมองอาจมีความผิดปกติ อาจทำให้เกิดโรคลมบ้าหมู อัลไซเมอร์ และรวมไปถึงปลอกประสาทอักเสบ หรือต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติก็ได้